สาวเฉียดตาย รถติดไฟแดง!! เผยวินาทีบึ้มกรุง เสียงร้องโหยหวน ศพกระเด็นตกข้างรถ

จากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 17 ส.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก สร้างความสลดหดหู่ ความกลัวและตื่นตระหนกแก่ผู้อยู่ในเห็นการณ์และบุคคลโดยทั่วไปที่รับรู้ ข้อมูลข่าวสาร แต่สำหรับผู้ที่ตกอยู่ให้เหตุการณ์ด้วยตัวเองแล้ว ความรู้สึกช่วงเวลาดังกล่าวคงเกินจะบรรยาย

ด้าน น.ส.โสภิดา พงศ์จีน เป็นผู้ที่ประสบเหตุการณ์วางระเบิดดังกล่าวด้วยตัวเองเปิดใจกับผู้สื่อข่าว ข่าวสดว่า ขับรถ ฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ทะเบียน สฉ4522 ออกจากสถานที่ทำงานตึกมณียา ตัวตึกอยู่ห่างจากศาลพระพรหม ประมาณ 100 เมตร รถมาจอดติดไฟแดง คันที่ 2 ซ้ายมือสุด ริมฟุตบาท ห่างจากจุดระเบิดประมาณ 20 เมตร ด้านหน้ามีรถกะบะ 1 คัน โดยวันนั้นออกมาจากบริษัทประมาณ 18.55 น. ขับรถมาติดไฟแดงประมาณ 2 นาที ตอนนั้นเวลาประมาณ 19.00 น. ก็ได้ยินเสียงบึ้มดังมาก มาจากทางซ้ายมือ มีแสงไฟสว่างวาบ

“วินาที แรกคิดว่าเป็นหม้อแปลงไฟระเบิด แต่มองไปด้านหน้า เห็นรถ จยย. ที่จอดอยู่ล้มลงทุกคัน และมีไฟลุกท่วม ตอนนั้นเพิ่งจะเห็นว่ากระจกรถด้านหน้าร้าวทั้งบาน และกระจกมองหลังหลุด วินาทีนั้นรู้เลยโดนระเบิดแน่ๆ รีบคว้ากระเป๋าและโทรศัพท์และดับเครื่องรถเก็บกุญแจรถแล้วรีบวิ่งลงมาจากรถ ระหว่างนั้นก็มีเสียงร้องโหยหวน และคนวิ่งหนีกันวุ่นวายไปหมด ช่วงลงจากรถ พบว่ามีศพกระเด็นมาตกข้างรถแบบเละเลยค่ะ เห็นแล้วตกใจมากๆ รู้สึกเศร้าใจมาก”

ตนวิ่งมายืนดูเหตุการณ์หน้าร้าน แม็คโดนัลด์ตรงตึกอัมรินทร์ฯ สักพัก มีรปภ.ของตึกแถวๆ นั้น มาช่วยโบกรถให้ถอยรถเข้าไปด้านหลังตึกอัมรินทร์ฯ ซึ่งมีทางออกไปถนนราชดำริ จึงรีบวิ่งกลับไปถอยรถ ระหว่างวิ่งไปก็กลัว เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีลูกที่ 2-3 ตามมาอีกหรือไม่ หลังจากถอยรถออกมาได้แล้วก็พยายามขับรถออกจาก พื้นที่ให้เร็วที่สุด ตอนนั้นได้ยินเสียงรถพยาบาลวิ่งไปรับคนเจ็บเต็มไปหมด เป็นวินาทีเฉียดตายจริงๆ สิ่งที่ทำในช่วงเวลานั้นคือเตือนตัวเองให้ตั้งสติให้ได้ และออกมาจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด

“น่ากลัวจริงๆค่ะ มันใกล้มาก ถ้าออกจากบริษัทมาเร็วกว่านี้สัก 5 นาที คงโดนเต็มๆ เพราะจะต้องเลี้ยวรถไปตรงจุดเกิดระเบิด นึกแล้วขนลุก ถ้ามาเร็วกว่านี้หน่อยจะต้องเลี้ยวรถไปทางซ้ายที่เป็นจุดระเบิด”

ตอน นั้นไม่ได้ถ่ายภาพไว้เลย คิดเพียงว่าจะออกจากจุดเกิดเหตุไปได้อย่างไร ในหูช่วงนั้นมีแต่เสียงร้องไห้ คนวิ่งหนีกันอลหม่านมากๆ สติสำคัญจริงๆ ถ้าสติแตกร้องไห้คงยุ่งกว่านี้ เพราะอยู่คนเดียว รถจอดติดไฟแดงริมถนนคันที่ 2 หลังรถกระบะ แต่นับว่ายังโชคดีมากที่ปลอดภัย มีเพียงอาการหูอื้อนิดหน่อย กำลังจะไปหาหมอ และต้องไปแจ้งความสน.พื้นที่เกิดเหตุ เมื่อคืนหลังจากออกจากจุดเกิดเหตุได้ไปแจ้งที่สน.คันนายาว เพราะอยู่ใกล้บ้าน แต่ตำรวจไม่ยอมรับเรื่อง

ส่วนรถได้รับความเสีย หายกระจกหน้าร้าวทั้งบาน กระจกมองหลังที่อยู่ในรถหลุด ด้านข้างรถถูกสะเก็ดระเบิด สภาพรถบนกระจกด้านหน้ารถ มีชิ้นเนื้อคนติดมาด้วย รู้สึกเศร้ามากๆ ที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับตัวเอง ที่สำคัญประกันไม่คุ้มครอง อีก 2 วัน จะถึงวันเกิด แต่มาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่ไม่เป็นไร คิดว่าฟาดเคราะห์ ยังโชคดีที่รอดชีวิตมาได้

น.ส.โสภิดา กล่าวว่า ช่วงบ่าย 2 โมงวันนี้ ขับรถจากบ้านไปสน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความก็ลุ้นว่ากระจกหน้ารถจะร่วงลงมาหรือเปล่า เพราะมันสั่น ยึดกันอยู่ได้เพราะฟิมล์เท่านั้น ลุ้นแล้วลุ้นอีก มาถึงเวลานี้หายตกใจแล้ว ตกใจช่วงแรกตอนอยู่ในเหตุการณ์พอออกมาได้ก็โล่ง ไม่รู้ดีหรือร้ายที่เป็นวันจันทร์ ไม่มีแม่ค้าตั้งแผงขายดอกไม้ ถ้าเป็นวันอื่นๆ ที่ไม่ใช่วันจันทร์ เวลานั้นจะมีนักท่องเที่ยวแน่นบริเวณศาลพระพรหม เพราะทำงานอยู่แถวนั้นเดินไปไหว้บ่อยมากไม่เช่นนั้นอาจจะมีคนตายมากกว่านี้

“แต่ ที่น่าดีใจ คือคนไทยช่วยเหลือกันมาก มาช่วยกันโบกรถแนะนำ ให้หลบไปทางนั้นทางนี้ น้ำใจจะมาแบบไม่คาดคิดแทบทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์รุนแรง สุดท้ายขอไว้อาลัยให้กับคนที่เสียชีวิตทุกคนค่ะ”