Wednesday, July 1, 2015

สาว16-ปลื้ม จะได้พบพ่อฝรั่ง หลังทิ้งให้ อยู่กับ"แม่" ตั้งแต่เกิด







เผย"น้องแหม่ม"สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วัย 16 ใช้เวลาหลังเลิกเรียนทำงานหาเงิน เรียน-ดูแลแม่และยาย ได้รายได้วันละ 300 บาท ทำงานได้อาทิตย์ละ แค่ 3 วัน เพราะติดเรียน ด้านแม่อยากตามหาสามีให้กลับมาดูแลลูกด้วย ล่าสุดพ่อชาวสหรัฐติดต่อกลับ จะส่งเสียให้เดือนละ 5 พัน เตรียมพาพี่สาวมาพบกับน้องแหม่มด้วย






จากกรณีข่าวสดออนไลน์ได้เผยแพร่เรื่องราวของน.ส.พรทิพย์ ภาเจริญ หรือน้องแหม่ม เด็กสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วัย 16 ปี ซึ่งอยู่ที่อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ต้องออกมาทำงานพิเศษเพื่อหาเงินเรียนรวมทั้งดูแลนางกิ่งแก้ว ภาเจริญ วัย 43 ปี แม่ที่ป่วยขาไม่มีแรง และยายที่ป่วยเป็นมะเร็งที่ปาก โดยแม่อยากให้พ่อที่เป็นอดีตทหารอเมริกันมาช่วยดูแลส่งเสียลูกสาวได้เรียนต่อ หลังทิ้งไปมีภรรยา ใหม่โดยนำลูกคนโตไปดูแลด้วย ในขณะที่ ตัวเองตั้งท้องลูกคนที่สอง
 ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน น้องแหม่ม หรือน.ส.พรทิพย์ได้เดินทางกลับมาบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปขายนมดัชมิลล์เหมือนเช่นเคย


โดยน้องแหม่มเปิดเผยว่า "วันนี้คุณแม่ได้พูดคุยกับคุณพ่อทางโทรศัพท์ และจะให้หนูคุยกับคุณพ่อ แต่หนูไม่คุย หนูอยากพูดคุยโดยเห็นหน้าตาคุณพ่อและพี่สาวด้วย"


ด้านนางกิ่งแก้วกล่าวว่า วันนี้เวลาประมาณ 11.00 น. ทางโรงพยาบาลพระพุทธบาทโทรศัพท์ติดต่อประสานมา ให้ไปรับโทรศัพท์จากบิลลี่ เรย์ คุก อดีตสามี และได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์นิดหน่อย โดยนายบิลลี่บอกว่า หลังจากได้รับทราบข่าวก็ติดต่อกลับมา และบอกว่าขณะนี้อยู่ที่พัทยา แต่ไม่บอกว่าอยู่ตรงไหน พร้อมกับบอกว่าจะให้ภรรยาใหม่เป็นคนส่งเงินมาให้ช่วยค่าเล่าเรียนน้องแหม่มเดือนละ 5,000 บาท


นางกิ่งแก้วกล่าวต่อว่า เมื่อถามถึงน.ส.เกวลิน ลูกสาวคนโต พี่สาวของน้องแหม่มที่อาศัยอยู่กับพ่อและภรรยาใหม่ ทราบแต่ว่า พี่สาวน้องแหม่มสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เรียนจบแค่ ม.2 ขณะนี้กำลังเรียนเสริมสวย โดยน.ส. เกวลิน ก็อยากเห็นหน้าแม่ อยากเห็นหน้าน้อง ส่วนน้องแหม่มก็อยากเห็นหน้าคุณพ่อและ พี่สาว โดยทางภรรยาใหม่บอกว่าได้เจอกันแน่ แต่ต้องนานหน่อย






นางกิ่งแก้วกล่าวว่า เมื่อทราบข่าวว่าจะช่วย ส่งลูกเดือนละ 5,000 บาทก็ดีใจแล้ว แต่กลัวจะเหมือนเดิม ส่งเงินมาให้ไม่กี่เดือนก็เงียบหาย


สำหรับเรื่องราวของน้องแหม่มเริ่มต้นจาก ฝ่ายประชาสงเคราะห์โรงพยาบาลพระพุทธ บาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี แจ้งว่า มีเด็กสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ใช้เวลาหลังเลิกเรียนออกมาเร่ขายนมดัชมิลล์ เพื่อหาเงินเรียนหนังสือ และเลี้ยงแม่กับยายที่ป่วย พร้อมทั้งอยากประกาศตามหาพ่อที่เป็นอดีตทหารอเมริกัน เพราะตั้งแต่เกิดไม่เคยเจอหน้าพ่อเลย


ผู้สื่อข่าวจึงติดตามไปที่บ้านพักของเด็ก ที่บ้านเลขที่ 66/9 หมู่ 9 ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท พบนางกิ่งแก้ว ภาเจริญ อายุ 43 ปี สภาพขาไม่แข็งแรง ซึ่งเป็นแม่ของเด็กสาวที่ฝ่ายประชา สงเคราะห์โรงพยาบาลพระพุทธบาทระบุ


โดยนางกิ่งแก้วเปิดเผยว่า เป็นแม่ของน.ส.พรทิพย์ ภาเจริญ หรือน้องแหม่ม เด็กสาววัย 16 ปี ที่ออกไปขายนมดัชมิลล์ โดยขณะนี้เรียนอยู่ที่วิทยาลัยการอาชีพสระบุรี อยู่ชั้น ปวช. ปี 2 ซึ่งหลังเลิกเรียนลูกสาวจะกลับบ้านมาเปลี่ยนชุดนักเรียน แล้วออกไปขายกับทีมงานขายนมดัชมิลล์ มีรายได้วันละ 300 บาท แต่ต้องขายนมให้หมดตามที่กำหนด โดยจะไปขายเฉพาะวันที่เลิกเรียนเร็ว ถ้าเลิกเรียนเย็นกลับมาขายไม่ทัน


นางกิ่งแก้วเล่าให้ฟังว่า เมื่อหลายปีก่อนไปทำงานที่พัทยาและได้รู้จักนายบิลลี่ เรย์ คุก เป็นอดีตทหารอเมริกัน ปัจจุบันอายุ 66 ปี ขาข้างขวาพิการต้องใส่ขาปลอม จนต่อมาได้อยู่กินกันฉันสามีภรรยา พร้อมทั้งย้ายไปอยู่อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา จนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน






นางกิ่งแก้วกล่าวต่อว่า จากนั้นได้ตั้งท้องลูกคนที่สอง นายบิลลี่ให้ตนกลับมาคลอดลูกที่บ้านอ.พระพุทธบาท โดยคลอดลูกสาวและตั้งชื่อว่าพรทิพย์ ต่อมาจึงรู้ว่าสามีกำลังมีภรรยา ใหม่เป็นคนไทย และส่งเงินให้ตนเลี้ยงดูลูก เดือนละ 5,000 บาท เพื่อไม่ให้ตนเองไปก่อกวนกับภรรยาใหม่ แต่ก็ส่งเงินมาให้เพียง 3 เดือน จากนั้นก็ไม่ส่งเงินมาให้ ตนเองก็ไม่ไปรบกวนจนถึงปัจจุบัน และเลี้ยงลูกสาว คนเล็กมาจนอายุ 16 ปีแล้ว ส่วนลูกคนแรก ยังอยู่กับนายบิลลี่


นางกิ่งแก้วกล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนเองกำลังลำบากมาก ที่บ้านอยู่กับแม่อายุ 80 ปี ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ปาก เหลนผู้หญิงวัย 2 ขวบ และน.ส.พรทิพย์ ส่วนตนเองขาไม่ค่อยมีแรงแต่ก็พยายามออกไปรับจ้างทั่วไป


นางกิ่งแก้วกล่าวด้วยว่า อยากประกาศตามหาตัวนายบิลลี่มาช่วยเหลือเรื่องเรียนหนังสือของลูกสาว สำหรับตัวเองนั้นไม่ได้ต้องการอะไร แค่อยากขอให้มาดูแลลูกสาว และส่งเสีย ให้ลูกได้เรียนหนังสือเท่านั้นก็พอใจแล้ว


ด้านน.ส.พรทิพย์กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอหน้าพ่อเลย อยากเจอหน้าพ่อมาก ส่วนเรื่องการเรียนอยากเรียนสาขานิเทศศาสตร์ เพราะอยากถ่ายรูป อยากเป็นช่างภาพ




Bagikan

Jangan lewatkan

สาว16-ปลื้ม จะได้พบพ่อฝรั่ง หลังทิ้งให้ อยู่กับ"แม่" ตั้งแต่เกิด
4/ 5
Oleh

Subscribe via email

Suka dengan artikel di atas? Tambahkan email Anda untuk berlangganan.